หากพูดถึง “กีกี้” หรือสมุนช็อกเกอร์จาก คาเมนไรเดอร์ หลายคนคงจำภาพของลูกกระจ๊อกที่มีเครื่องแบบสีดำลายโครงกระดูก เสียงร้อง “กีกี๊” เป็นเอกลักษณ์ และเป็นตัวละครที่กระจอกที่สุดในจักรวาลไรเดอร์ ต่อให้มารุมกันทั้งฝูง ก็แพ้ไรเดอร์คนเดียวอยู่ดี เพราะถูกออกแบบมาให้เป็นหุ่นเชิดที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ทำตามคำสั่งโดยไม่เคยตั้งคำถาม
แต่ในชีวิตจริง คนที่เหมือน “กีกี้” ก็มีอยู่ไม่น้อย คนที่เป็นพนักงานที่ต้องทำตามคำสั่งไปวันๆ ไม่มีความคิดริเริ่ม ไม่มีทักษะพิเศษ และสุดท้ายก็โดนองค์กรละเลย หรือถูกแทนที่ได้ง่ายดายโดยเอไอ เหมือนลูกกระจ๊อกที่ตายแล้วตายอีกโดยไร้ความสำคัญ
ถ้าคุณไม่อยากเป็น “กีกี้” ในที่ทำงาน ต่อไปนี้คือ 5 ทักษะที่คุณต้องฝึกฝนเพื่อหลุดพ้นจากวงจรลูกกระจ๊อก
1. ทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) – คิดให้เป็น อย่าแค่ทำตามคำสั่ง
กีกี้ทำทุกอย่างตามที่องค์กรช็อกเกอร์สั่งมาโดยไม่มีข้อสงสัย พอเจอไรเดอร์ก็วิ่งเข้าหาโดยไม่วางแผน แล้วก็โดนเตะปลิวทุกครั้ง
ในโลกการทำงาน ถ้าคุณเป็นคนที่แค่รอคำสั่งอย่างเดียว คุณก็ไม่ต่างจากกีกี้ที่รอให้หัวหน้าชี้นิ้วว่า “ทำอันนี้” โดยไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง คนที่ก้าวหน้าได้เร็วคือคนที่ตั้งคำถาม คิดวิเคราะห์ วางแผนก่อนลงมือทำ และหาทางปรับปรุงงานให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ทำเพราะ “เขาบอกให้ทำ”
ฝึกการคิดวิเคราะห์โดยการตั้งคำถามกับทุกสิ่ง เช่น “ทำไมต้องทำแบบนี้?”, “มีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม?”, “ผลกระทบของสิ่งที่ทำคืออะไร?” คนที่คิดเป็นจะกลายเป็นคนที่มีค่ากับองค์กร และไม่มีวันถูกแทนที่ง่ายๆ
2. ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving) – ฝึกให้แก้ปัญหาได้ ไม่ใช่รอให้คนอื่นช่วย
กีกี้ไม่เคยแก้ปัญหาเอง พอเจอไรเดอร์ปุ๊บก็พุ่งเข้าไปโดยไม่มีแผน แล้วสุดท้ายก็โดนซัดปลิวทุกครั้ง
ในที่ทำงาน คนที่รอให้หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานช่วยแก้ปัญหาตลอด มักจะกลายเป็นภาระมากกว่าสมาชิกที่มีค่า ถ้าคุณอยากหลุดพ้นจากการเป็นกีกี้ คุณต้องฝึกการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
วิธีฝึกคือ แทนที่จะถามว่าต้องทำยังไง ลองคิดหาวิธีแก้ปัญหามาเสนอเองก่อน แล้วค่อยขอคำแนะนำ คนที่แก้ปัญหาได้เองจะเป็นที่ต้องการเสมอ ในขณะที่คนที่รอให้คนอื่นมาช่วย อาจโดนมองว่าเป็นแค่ “ลูกกระจ๊อก” ที่เปลี่ยนใหม่ได้ตลอดเวลา
3. ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills) – อย่าพูดแค่ “กีกี๊”
กีกี้มีเสียงร้องเดียวคือ “กีกี๊” ซึ่งไม่มีใครเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร และก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรในแผนการขององค์กร
ในโลกความเป็นจริง คนที่สื่อสารไม่เป็น หรือพูดอะไรออกมาแล้วไม่มีใครเข้าใจ ก็มักจะถูกมองข้าม ถ้าคุณอยากให้คนอื่นเห็นคุณค่า คุณต้องสื่อสารให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการเขียน
ฝึกสื่อสารให้มีประสิทธิภาพโดย ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย กระชับ และตรงประเด็น ฝึกการนำเสนอความคิด และฝึกฟังให้เป็น เพื่อให้การสื่อสารเกิดประโยชน์สูงสุด
4. ทักษะการปรับตัว (Adaptability) – อย่าติดอยู่กับเครื่องแบบเดิม
ไม่ว่ากีกี้จะเปลี่ยนเครื่องแบบลายโครงกระดูกไปกี่ครั้ง พวกมันก็ยังเป็นลูกกระจ๊อกที่ไร้พัฒนาการเหมือนเดิม
ในโลกการทำงาน ถ้าคุณทำงานแบบเดิมๆ โดยไม่เรียนรู้สิ่งใหม่ คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกแทนที่ได้ง่าย การปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของตลาดเป็นสิ่งสำคัญมาก
ฝึกตัวเองให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ตลอดเวลา เช่น เรียนรู้การใช้ AI, ฝึกภาษาใหม่ๆ หรือพัฒนาทักษะเฉพาะทางเพิ่มเติม คนที่เรียนรู้เร็วและปรับตัวเก่ง จะไม่มีวันเป็น “ลูกกระจ๊อกที่ถูกลืม”
5. ทักษะความเป็นผู้นำ (Leadership Skills) – เลิกเป็นลูกกระจ๊อก แล้วเป็นหัวหน้าทีมแทน
กีกี้เป็นได้แค่สมุนที่ไม่มีวันเป็นหัวหน้า เพราะพวกมันไม่เคยคิดเองหรือกล้าตัดสินใจ
ถ้าคุณอยากก้าวหน้าในชีวิต อย่ารอให้ใครมาชี้นิ้วสั่ง ต้องฝึกเป็นผู้นำให้ได้ แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้เป็นหัวหน้าในตำแหน่งจริงๆ แต่ถ้าคุณสามารถ นำเสนอโครงการ คิดแผนงาน และเป็นผู้นำในการทำงานเป็นทีม คุณจะเป็นคนที่องค์กรต้องการ
ฝึกภาวะผู้นำโดย เริ่มจากการรับผิดชอบงานบางส่วน คอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม และกล้าตัดสินใจเมื่อมีปัญหา เมื่อคุณมีคุณสมบัติของผู้นำ โอกาสเติบโตก็จะมาเอง
สรุป
กีกี้ในโลกของคาเมนไรเดอร์ อาจเป็นแค่ตัวละครที่มีไว้เพื่อแพ้ แต่ในชีวิตจริง คุณไม่จำเป็นต้องเป็น “ลูกกระจ๊อก” ที่รอให้ใครมาสั่งตลอดเวลา
ถ้าคุณไม่อยากเป็นกีกี้ที่ถูกลืม ลองฝึก 5 ทักษะนี้ให้เชี่ยวชาญ
✅ คิดวิเคราะห์ – อย่าทำตามคำสั่งแบบไร้สมอง
✅ แก้ปัญหาได้เอง – อย่ารอให้คนอื่นมาช่วยตลอด
✅ สื่อสารให้ชัดเจน – อย่าเป็นแค่เสียง “กีกี๊” ที่ไม่มีใครเข้าใจ
✅ ปรับตัวเก่ง – อย่าติดอยู่กับวิธีเดิมๆ ที่ใช้ไม่ได้ผล
✅ เป็นผู้นำ – อย่าเป็นแค่สมุน จงเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญ
หากฝึกฝนทักษะเหล่านี้ได้ คุณจะไม่มีวันเป็นแค่กีกี้ในที่ทำงาน แต่จะกลายเป็นคนที่องค์กรขาดไม่ได้ และไม่มีวันถูกแทนที่ง่ายๆ! 🚀
สั่งซื้ออีบุ๊คได้ที่ https://peyconsulting.com/shop/
